มิกเซอร์ดิจิตอลสายพันธุ์ใหม่ Crest Audio Tactus


Crest Audio Tactus ดิจิตอลมิกเซอร์สายพันธุ์ใหม่

หากกล่าวถึงแบรนด์ Crest Audio ผู้ที่อยู่ในแวดวงเครื่องเสียงมายาวนานคงจะทราบกันเป็นอย่างดี ว่าแบรนด์นี้โดดเด่นในด้านการผลิตเพาเวอร์แอมป์ และมิกเซอร์แอนาลอก รวมถึงลำโพง โดยเฉพาะอุปกรณ์คอนโซลมิกเซอร์และเพาเวอร์แแอมป์นั้น ในอดีตจัดได้ว่ามีคุณภาพที่ดีและเชื่อถือได้

สำหรับ Crest Audio เป็นแบรนด์จากสหรัฐอเมริกา หากย้อนกลับไปในช่วงปลายทศวรรษ 1970 เป็นช่วงเวลาที่ Crest Audio ถือกำเนิดขึ้น โดยผู้ก่อตั้งคือ Jean-Pierre Prideaux ที่รัฐแคลิฟอเนียร์ ต่อมาในยุคทศวรรษ 1980 บริษัท Dallas Music Industries ได้ซื้อกิจการไป อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน Crest Audio อยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท Peavey ซึ่งได้เข้าซื้อกิจการไปตั้งแต่ปี 1999

Crest Audio ได้ห่างหายไปจากตลาดเครื่องเสียงนานมาก นานเสียจนผู้คนในวงการลืมไปเลย แต่แล้วเมื่อเร็วๆ นี้ Crest Audio ได้ประกาศเปิดตัวดิจิตอลมิกเซอร์รุ่นใหม่ คือรุ่น Tactus นั่นเป็นการสร้างความแปลกใจปนความตื่นตะลึง มึนงงกันไปทั้งวงการเลยทีเดียว เพราะเจ้าตัว Tactus นั้น ถูกออกแบบขึ้นโดยฉีกแนวเดิมๆ จากดิจิตอลมิกเซอร์ส่วนใหญ่ที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบัน

รู้จัก Crest Audio Tactus

สำหรับ Crest Audio Tactus จัดเป็นดิจิตอลมิกเซอร์ระดับมืออาชีพ ในระบบจะประกอบด้วยอุปกรณ์หลักๆ ดังนี้

1. แร็คประมวลผลที่เรียกว่า tactus foh
2. สเตจบ็อกซ์ tactus stage
3. โฮสคอมพิวเตอร์สำหรับรันซอฟต์แวร์ Waves eMotion LV1
4. ตัวคอนโทรลเลอร์ (ออปชัน) tactus control

ในกรณีต้องการบันทึกเสียงการเล่นสด ผู้ใช้จำเป็นต้องมีคอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่งเครื่องไว้รันซอฟต์แวร์ DAW ต่างหาก ตัว Tactus สามารถขยายการเชื่อมต่อได้สูงสุดถึง 3 ซิสเท็ม และรันได้ 192 I/O โดยพื้นฐานอุปกรณ์ของตัวสเตจบ็อกซ์สามารถรองรับได้จำนวน 16 อินพุตและ 32 อินพุต ส่วน foh รองรับได้ 8 อินพุต 8 เอาต์พุต

โดยเจ้าตัว foh จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของระบบซึ่งจะเป็นตัวประมวลผลสัญญาณทุกๆ อย่าง อาทิเช่น การเราท์ติ้งสัญญาณอินพุตและเอาต์พุต การประมวลผลปลั๊กอินต่างๆ รวมถึงการรันซอฟต์แวร์ LV1 โดยทั้งหมดจะถูกเชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยีโพรโตคอลที่ชื่อ SoundGrid

ปัจจุบันจะพบว่า SoundGrid เริ่มแพร่หลายมากขึ้น มันถูกนำมาใช้กับดิจิตอลมิกเซอร์บางยี่ห้อเพื่อให้สามารถรันปลั๊กอินของค่าย Waves ได้ อย่างไรก็ตาม Tactus นั้นมีซอฟต์แวร์ LV1 ที่เสมือนเป็นระบบปฎิบัติการสำคัญของมิกเซอร์เพื่อใช้ควบคุมการทำงานฮาร์ดแวร์ในระบบ และถูกขยายขีดความสามารถต่างๆ ด้วยปลั๊กอิน Waves

นอกจากนั้น ผู้ใช้สามารถนำอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อมาควบคุมซอฟต์แวร์/ฮาร์ดแวร์ได้ เช่น Tactus Control ซึ่งเป็นคอนโทรลเลอร์ที่มีจำนวน 16 เฟดเดอร์และสวิตซ์ต่างๆ ที่ใช้ควบคุมการทำงานของซอฟต์แวร์ LV1 และจอทัชสกรีนเชื่อมต่อกับตัวฮาร์ดแวร์ foh

อย่างไรก็ดี Crest Audio ได้ออกแบบระบบให้รองรับคอนโทรลเลอร์อื่นๆ อาทิ ICON หรืออุปกรณ์อื่นใดที่รองรับโพรโตคอล HUI เช่น Mackie และ Avid เป็นต้น ทำให้ผู้ใช้มีทางเลือกมากขึ้น สามารถประหยัดงบประมาณได้อีกด้วย

สำหรับดิจิตอลมิกเซอร์ทั่วไปมีหลายรุ่นหลายยี่ห้อที่รองรับระบบทัชสกรีน คือสามารถใช้นิ้วจิ้มที่หน้าจอเพื่อสั่งงานได้เลย ซึ่งตัว Tactus ก็สามารถทำได้เช่นกัน ผู้ใช้สามารถเซตระบบให้สามารถควบคุมผ่านจอทัชสกรีนหรือตัวคอนโทรลเลอร์ก็ได้

ซึ่งตัวคอนโทรลจะทำงานเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์ LV1 ในการเป็นตัวกลางที่จะกำหนดความดังเบา การควบคุมการเชื่อมต่ออุปกรณ์ การเปิดพื้นที่ให้ใส่ปลั๊กอิน ซึ่งตัวซอฟต์แวร์ LV1 จะเริ่มต้นที่ 16 แชนเนล และสูงสุด 32 แชนเนล

ในกรณีต้องการจำนวนแชนเนลมากกว่านี้ เช่น 64 แชนเนล ผู้ใช้สามารถขยายระบบโดยการใช้สเตจบ็อกซ์ 32 แชนเนลเชื่อมต่อกันจำนวน 2 ตัว ซึ่งในหนึ่งซิสเท็มจะเชื่อมต่อสเตจบ็อกซ์ได้สูงสุด 2 ตัวเท่านั้น

จุดเด่นของ Tactus

ระบบการทำงานของ Tactus จะทำงานบน ซอฟต์แวร์ LV1 ผู้ใช้สามารถนำปลั๊กอินของ Waves เข้ามาทำงานร่วมกันโดยการ Insert เข้าไปที่ซอต์แวร์ LV1 ได้เลย โดยตัว LV1 สามารถใส่ปลั๊กอินได้สูงสุด 8 ตัวต่อหนึ่งแชนเนล แม้ว่าผู้ใช้จะใส่ปลั๊กอิน 8 ตัวในทุกๆ แชนเนลก็ตาม จำนวนของปลั๊กอินจะไม่มีผลต่อความช้า/เร็วของระบบ

นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถใช้ปลั๊กอินตัวเดียวกันซ้ำกับแชนเนลอื่นได้ ไม่ต้องใช้รูปแบบการ Send/Return สัญญาณปลั๊กอินเอฟเฟ็กต์ผ่าน Aux เหมือนกับมิกเซอร์ทั่วไป จะเห็นว่าการใช้งานลักษณะนี้เหมือนกับการใช้ปลั๊กอื่นบนซอฟต์แวร์ DAW เช่น Pro Tools, Logic, Cubase

การที่ Crest Audio ได้ซอฟต์แวร์ LV1 และปลั๊กอิน Waves มาอยู่ในระบบ ย่อมทำให้ดิจิตอลมิกเซอร์ของ Crest Audio มีสมรรถนะสูงขึ้น กล่าวคือ ยิ่งได้ปลั๊กอิน Waves คุณภาพดีเท่าไหร่ ก็จะส่งผลดีต่อระบบ Tactus มากเท่านั้น การทำงานผ่านจอทัชสกรีนร่วมกับ LV1 ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ Tactus ทำได้คล้ายกับคู่แข่ง ทำให้เข้าถึงฟังก์ชันต่างๆ ของ LV1 และ ปลั๊กอิน Waves ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนั้นการเชื่อมต่อผ่านระบบเน็ตเวิร์ก Tactus สามารถเชื่อมต่อผ่านระบบ Dante (ออปชัน), SoundGrid ได้

ลูกเล่นต่างๆ

ในกรณีระบบ Tactus มีขนาด 32 แชนเนล บนซอฟต์แวร์ LV1 จะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือ 1-16 แชนเนลและ 17-32 แชนเนล ซึ่งในจอจะมีแท็บอยู่ฝั่งขวามือปรากฎอยู่ ปลั๊กอินที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ LV1 จะมีด้วยกัน 3-4 กลุ่ม คือ EQ, ฟิลเตอร์, ไดนามิกและรีเวิร์บ ปลั๊กอินที่แถมมาจะขึ้นต้นด้วยคำว่า EMO แต่หากเป็นปลั๊กอินที่เราซื้อเองจะขึ้นต้นด้วย Waves ในกรณีผู้ใช้มี License ของ Waves อยู่แล้ว ท่านสามารถใส่เข้าไปบนตัว LV1 ได้เลย

การใช้ปลั๊กอินบน LV1 จะคล้ายกับการใช้ปลั๊กอินบนซอฟต์แวร์ DAW ยังไงยังงั้นเลย  เราสามารถนำมาจัดการกับแชนเนลเครื่องดนตรีต่างๆ ได้ง่ายดาย เช่นแชนเนลกลอง Kick, Snare, Tom, Floor Tom, Overhead, Room จะใช้แบบเลือกพรีเซตจากปลั๊กอินก็ได้ หรือปั้นเองก็ทำได้อิสระ นี่คือความหยืดหยุ่นของระบบดิจิตอลมิกเซอร์ที่รองรับปลั๊กอิน ในส่วนราคาปลั๊กอิน Waves ปัจจุบันก็มีราคาไม่แพง บันเดิลราคาหมื่นกว่าบาทก็มีเลือก หรือจะเลือกซื้อเป็นตัวเดี่ยวๆ ก็ได้  หรือจะรอจังหวะโปรโมชันดีๆ ค่อยซื้อก็ได้

การเซตอัพระบบ

Crest Audio Tactus เป็นดิจิตอลคอนโซลที่อาศัยซอฟต์แวร์ Wave eMotion LV1 เป็นตัวกลางในการจัดการฮาร์ดแวร์ต่างๆ ผู้ใช้จำเป็นต้องใช้ปลั๊กอินที่รองรับ SoundGrid โดยปลั๊กอินต่างๆ จะรันผ่านตัว Tactus FOH จึงไม่ต้องกังวลเรื่องทรัพยากรของเครื่องที่รัน LV1 ว่าจะไม่เพียงพอต่อการรันปลั๊กอินจำนวนมากๆ พร้อมกัน

ในการเซตอัพระบบของ Tactus 32 แชนเนล จะแยกออกเป็น 2 ส่วน แต่ละส่วนจะมีรูปแบบการเชื่อมต่อสายสัญญาณ 3 ชนิดคือ USB, Ethernet และแอนาลอก สำหรับส่วนที่เป็น FOH หรือ Front of House นั้น ผู้ใช้จะต้องมีคอมพิวเตอร์จำนวน 1 เครื่องซึ่งทำหน้าที่รันซอฟต์แวร์ LV1 โดยเชื่อมต่อผ่านสายสัญญาณ Ethernet จากคอมพิวเตอร์ดังกล่าวมาที่ Tactus.foh

ในกรณีต้องการเชื่อมต่อกับตัวคอนโทรเลอร์ให้เชื่อมต่อจากคอมพิวเตอร์มาที่ตัวคอนโทรลเลอร์ผ่านพอร์ต USB (ถ้ามี) ในส่วนที่เป็น Stage หรือบนเวที ให้เชื่อมต่อสาย Ethernet ระหว่าง Tactus.foh เข้ากับ สเตจบ็อกซ์ tactus stage ส่วนสายแอนาลอกให้เชื่อมต่อผ่านขั้วต่อ Line, Mic ตามต้องการเช่น ลำโพง เพาเวอร์แอมป์ ไมโครโฟน หรือเครื่องดนตรีอื่นๆ

ข้อดี

  • รองรับปลั๊กอิน Waves
  • ภาคการมิกซ์ใช้งานได้เหมือนซอฟต์แวร์ DAW
  • คุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ
  • รองรับระบบทัชสกรีน
  • ขยายระบบได้สูงสุด 3 ซิสเท็ม รองรับ 192 I/O
  • ควบคุมระบบด้วยซอฟต์แวร์ LV1

Crest Audio Tactus เป็นดิจิตอลมิกเซอร์รูปแบบใหม่ ที่มีระบบแตกต่างจากดิจิตอลมิกเซอร์บางยี่ห้อ โดยมีการออกแบบแยกส่วนฮาร์ดแวร์ทั้งตัวประมวลผลตัวปลั๊กอิน อุปกรณ์ใช้รันซอฟต์แวร์ควบคุม อุปกรณ์ควบคุม และสเตจบ็อกซ์ I/O ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งระบบได้ตามความเหมาะสม ยืดหยุ่นต่อการใช้งาน และไม่ถูกตีกรอบจากระบบเดิมๆ

Tactus จึงถือเป็นดิจิตอลมิกเซอร์ที่เปิดประตูให้ผู้ใช้เข้าไปสู่โลกการทำงาน Live แบบใหม่อย่างแท้จริง ภายใต้ซอฟต์แวร์ LV1 และปลั๊กอิน Waves ผ่านโพรโตคอล SoundGrid ในรุ่นนี้ถือว่าเป็นการเปิดตัวได้ดี ทั้งการออกแบบและคุณภาพเสียง ตอบโจทย์การทำงาน Live Sound อย่างแท้จริง”

บทความโดย : อาจารย์ เดชฤทธิ์ พลเยี่ยม (Bobby Rambo)


สนใจสั่งซื้อ มิกเซอร์ดิจิตอล ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ในราคาพิเศษ

ติดต่อ บริษัทมิวสิคสเปซ จำกัด  022031821  026414744

https://musicspace.co.th   www.soundspacethai.com